หลังจากที่ได้รู้ไปแล้วว่าส่วนประกอบหลักของ Snailwhite นั้นคือ เมือกหอยทากสายพันธุ์ Helix ที่นี้เรามาดูส่วนประกอบอื่นที่สำคัญกันต่อดีกว่านั้นก็คือ Hydrolyzed Hyaluronic Acid( Hyalo-Oligo ) ซึ่งเป็นตัวที่มีโมเลกุลเล็กกว่าตัวอื่นจึงทำให้สามารถแทรกลงไปที่ชั้นผิวหนังด้านในได้ แล้วตัวไฮยาที่มันทำหน้าที่อะไรหละ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEggUK_2hmykxkncLU6JCkh9FkyUn_9j2jhGOyo5N0Bt94Bj7TzHBfcsNKjhdJ_dq7jekVb_RpSfnGZ114XqBv1S-FyRZh3C5ETAPKn5IZy3CyZlSt21nLzi_K5y7cvD-LWEzfMDG4UuzMM/s320/%E5%B0%8F%E6%B3%A22.png)
ตัว"ไฮยา"นี้จะทำหน้าที่อุ้มความชื้นให้ชั้นผิวหนัง ซึ่งการที่มีความชื้นอยู่ในชั้นผิวหนังด้านในนั้นก็จะทำให้สภาพผิวมีความเต่งตึง เด้งดึ้งๆ เมื่อโดนแสงแดดความชี้นที่ตัว"ไฮยา" อุ้มอยู่ก็จะถูกแสงแดดทำลายยากขึ้นก็จะทำให้ผิวเราชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา เทียบง่ายๆก็คือผิวของเราที่มี"ไฮยา" ก็เหมือนมีเกราะเหล็กป้องกันไม่ให้แสงแดดเอาน้ำที่ผิวเราไปง่ายๆนั้นเอง
ตัวต่อมาที่น่าสนใจอีกตัวก็คือ Butyrospemum Parkii
Bytyrospermum Parkii: สารสกัด จากต้น Karite ทวีปแอฟริกาตะวันตก แปลว่าต้นไม้แห่งชีวิต (Tea of Life) ต้นไม้นี้อายุยืนถึง 200 ปี ผลมีสีเขียว เปลือกของเมล็ด (Kernel) จะแข็งมีสีขาว นำมาสกัดเป็น Shea Butter ชี บัตเตอร์จะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว โดยให้น้ำมันชนิดเดียวกับที่ผลิตโดยต่อม Sebaceous จากผิวหนังของเราเอง จึงไม่แปลกที่ Shea Butter จะเป็น moisturizer ที่ดีที่สุดสำหรับผิวมนุษย์ ชี บัตเตอร์ จะกระตุ้นให้ผิวเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักความชื้น เมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอเซลล์ผิวจะปล่อยให้ความชื้นซึมผ่านเซลล์เข้ามา ทำให้รักษาความชุ่มชื้นให้คงอยู่ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังพบวิตามินที่มีประโยชน์กับผิวด้วยคือ วิตามินเอซึ่งเป็น moisturizer ที่สุดยอด วิตามินเอ ใน Shea Butter สามารถจะปรับสภาพและฟื้นฟูผิวได้หลายชนิด เช่น รอยเหี่ยวย่น (wrinkle) ผื่นคัน (eczema) ผิวหนังอักเสบแบบไม่ร้ายแรง (dermatitis) นอกจากนั้นยังให้ผลดีกับอาการแพ้ที่ผิวหนัง แมลงกัดต่อย แดดเผา (sunburn) หิมะกัด (frostbite) และอาการทางผิวหนังอื่นๆ และ วิตามินอีใน Shea Butter สามารถปกป้องริ้วรอยแห่งวัย ต่อต้านอนุมูลอิสระและฟื้นฟูสภาพผิวให้สดใสเปล่งปลั่ง และมีผลทางบวกในการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต (micro-circulation)